เพชรมีหลายสี สีที่นิยมที่สุดคือสีขาวบริสุทธิ์ สีที่หายากคือสีแดง ฟ้า เขียว ส้ม ชมพู เรียกว่า "แฟนซีไดมอนด์" มีราคาสูงมาก (อ่านแล้วนึกถึงเกมส์จับคู่เพรชรเลยนะคะ) การเจียระไนเป็น 52 เหลี่ยมนับว่าสวยที่สุด เพชรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ความแข็งแกร่ง แหล่งของเพชรมีอยู่ทั่วโลก ส่วนมากพบที่บราซิลและแอฟริกาใต้
การกำเนิด
เพชร เป็นสสารที่แข็งที่สุด โดยเกิดขึ้นจากการที่หินหนืดหรือแมกมา (Magma) ได้เปลี่ยนตัวเองจากธาตุคาร์บอนให้กลายเป็นผลึกคาร์บอนหรือเพชร แต่การที่ธาตุดังกล่าวจะกลายมาเป็นผนึกคาร์บอนหรือเพชรนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาหลายพันปีภายใต้พื้นผิวโลกในระดับความลึกถึง 150-250 กิโลเมตร ความดันสูงถึง 70,000 กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร อุณหภูมิ 1,700-2,500 องศาเซลเซียส ซึ่งอยู่ในระดับชั้นแมนเทิลส่วนบนของโลก (Upper Mantle) จากนั้นผนึกเพชรจะถูกฝังตัวในหินแม่เพริโดไทต์ (Peridotite) และเอโคลไจต์(Eclogite)แล้วแมกมาบางส่วนจะดันหินดังกล่าวเข้าไปในรอยแตกของหินเปลือกโลกด้านบน ผนึกเพชรที่ฝังตัวอยู่ในหินทั้ง 2 ชนิด จะเย็นตัวลงในหินภูเขาไฟชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่าหินคิมเบอร์ไลต์ (Kimberlite) หรือชั้นหินสีน้ำเงิน (Blue Ground) แล้วถูกแมกมาอีกส่วนดันออกมาสู่พื้นผิวโลกโดยการระเบิดของภูเขาไฟ เมื่อผนึกเพชรถูกพ่นออกมากับแมกมา (Magma) จากปล่องภูเขาไฟจะเย็นตัวลงในหินภูเขาไฟ และจะถูกกัดกร่อนทีละน้อยด้วยความร้อน แรงลมและฝนเป็นเวลานานหลายศตวรรษ ซึ่งจะทำให้เพชรหลุดออกจากหินคิมเบอร์ไลต์ (Kimberlite) แล้วถูกกระแสน้ำชะล้างทำความสะอาดและพัดพาไปตกตะกอนที่ก้นแม่น้ำและอาจถูกพัดพาไปเรื่อยจนถึงบริเวณชายหาดมหาสมุทรการค้นพบ
เพชรถูกค้นพบเป็นครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย ผู้ค้นพบเพชรพบว่าเพชรปะปนอยู่กันก้อนกรวดในก้นแม่น้ำสมัยโบราณ เชื่อกันว่า พวกทมิฬ (Dravidians) เป็นผู้ค้นพบเพชรในช่วงอารยธรรมแห่งหุบเขาอินดัส (Indus Valley Civilization) ระหว่างปี 2500 และ 1700 ก่อนคริสตกาล เพชรเหล่านี้มาจากภูเขาไฟระเบิด และถูกน้ำพัดพาไปรวมกันกับก้อนหิน หรวด ทรายก้นแม่น้ำ ทับถมกันเป็นเวลานับล้านๆ ปีเหมืองเพชร
ชาวอินเดียได้ทำเหมืองเพชรเมื่อ 800 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยนั้นพวกเขาคิดว่าเพชรเจริญเติบโตในพื้นดินได้เหมือนเมล็ดพืช พวกเขาจึงชั้งน้ำหนัก และกำหนดค่าของเพชร โดยเปรียบกับเม็ดของต้นคารอบ (Carob Tree) ซึ่งเมล็ดนี้ถูกกำหนดให้เป็นมารตฐานในการวัด ต่อมาเมล็ดคารอบแปรเปลี่ยนมาเป็น "กะรัต" (Carat) ซึ่งยังคงเป็นหน่วยที่ใช้วัดน้ำหนักเพชรอยู่ในปัจจุบันนี้ (1 กะรัต เท่ากับ 1/142 ออนซ์ หรือ 0.2 กรัม)ยุคนั้นอินเดียเป็นแหล่งผลิตเพชรแห่งเดียวของโลก จนกระทั่งช่วงต้นของศตวรรษที่ 18 แหล่งการค้าสำคัญๆ ของยุโรปล้วนติดต่อค้าขายกับอินเดีย ทั้งเวนิส บรุคส์ และลอนดอน อินเดียได้กลายเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายและศูนย์กลางอุตสาหกรรมเพชร ในปี 1725 ได้พบแหล่งเพชรใหม่ที่บราซิล ทำให้ชนชั้นกลางที่ร่ำรวมมีโอกาสเป็นเจ้าของเพชรนอกเหนือจากราชวงศ์และขุนนางชั้นสูงที่มีสิทธิพิเศษในการครอบครองเพชร ในปี 1866 มีการค้นพบแหล่งเพชรได้อีกในแอฟริกาใต้ และเริ่มเกิดการตื่นเพชรขึ้นพร้อมๆ กับการเกิดเมืองต่างๆ รอบเหมืองเพชรใหม่ มีการจับจองที่ดิน และเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิเสมอกัน ในปีนี้เองถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของเพชร ซึ่งทำให้อัญมณีที่สวยงามนี้เป็นที่เอื้อมถึงของคนทั่วๆ ไป ต่อมาก็ได้มีกาารค้นพบแหล่งเพชรเพิ่มขึ้นอีกในดินแดนส่วนอื่นของแอฟริกา และในปี 1945 ได้พบแหล่งเพชรในรัสเซีย ใกล้ๆ ขั้วโลกเหนือแถบตะวันออกของไซบีเรีย ในปัจจุบันนี้มี 21 ประเทศที่มีเหมืองเพชร ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา นอกจากนี้ยังมีพบที่จีน อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ รัสเซีย และแคนาดา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น