วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แก้วมาจากไหน

แก้ว หมายถึง วัสดุแข็งที่มีรูปลักษณะอยู่ตัว และเป็นเนื้อเดียว โดยปกติแล้วเกิดจากการเย็นตัวลงอย่างฉับพลันของวัสดุหลอมหนืด ซึ่งทำให้การแข็งตัวนั้นไม่ก่อผลึก ตัวอย่างเช่น น้ำตาลซึ่งหลอมละลายและถูกทำให้แข็งตัวอย่างรวดเร็ว อาจด้วยการหยดลงบนผิวเย็น น้ำตาลที่แข็งตัวนี้จะมีลักษณะเป็นเนื้อเดียว ไม่แสดงให้เห็นถึงลักษณะที่เป็นผลึก ซึ่งสามารถสังเกตได้จากรอยแตกหักซึ่งมีลักษณะละเอียด (conchoidal fracture)

แก้วสามารถที่จะเกิดได้หลากหลายวิธี โดยการที่จะเลือกวัตถุดิบใน จะต้องมีการคำนวณเพื่อหาปริมาณสารที่ต้องการใช้ใน Batch เนื่องจากสารที่ต้องการใช้ใน Batch จะได้มาจากปฏิกิริยา ของวัตถุดิบ โดยในระหว่างการหลอมวัตถุดิบ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี และโครงสร้าง โดยจะทำให้เกิดฟองอากาศ ที่ต้องกำจัดออกไป โดยในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่ต้องการการขึ้นรูปทรงที่เฉพาะ จะทำโดยมีการใช้กระบวนการทางความร้อนเข้าช่วย เพื่อกำจัด Stress ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว และการปรับปรุงให้แก้วมีความแข็งแกร่งขึ้นโดยการอบเทมเปอร์ (Temper)


จาก วิกิพีเดีย



ประวัติความเป็นมา

ตามตำราของพลินี ดิ เอลเดอร์ นักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน เขียนไว้ว่า กลาสีที่อาศัยอยู่แถบโพลิเนเชียนเป็นผู้ค้นพบแก้ว

เมื่อประมาณ 4000 ปีก่อน มีพ่อค้าชาวโพลิเนเชียน เดินทางไปค้าขายตามเมืองต่างๆ ภายในเรือของพวกเขาบรรทุกเกล็ดโซฟาเต็มลำเรือทีเดียว ในขณะที่กำลังล่องเรือผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้เกิดอุบัติเหตุให้เรือของพวกเขาไปเกยตื้นอยู่ที่ปากแม่น้ำแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับ Sand Bank ผู้โดยสารทั้งหมดจึงขึ้นบก เพื่อรอเรือช่วยเหลือมารับกลับไป ระหว่างรอ พวกเขาก็เริ่มหิว จึงได้เอาเอาเกล็ดโซดาก้อนใหญ่ในเรือมาหนุนหม้อใบใหญ่สำหรับปรุงอาหาร และเมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เตรียมตัวเก็บหม้อ ทำความสะอาดสถานที่ พวกเขาได้พบว่าเกล็ดโซดาก้อนใหญ่ได้ละลายรวมกับทราย และได้หลอมตัวเป็นก้อนแก้วที่สวยงาม เป็นความน่าแปลกประหลาดมากทีเดียว โพลิเนเชียน ซึ่งมีอาชีพเป็นพ่อค้าอยู่แล้ว ได้จำวิธีนี้ไว้ทันที เมื่อกลับไปที่เมืองของตนสำเร็จพวกเขาได้นำวิธีนี้ไปทดลองจนสำเร็จ โดยมีส่วนผสมในการทำแก้วคือ ทราย เกล็ดโซดา และซิลิก้าก็หล่อหลอมออกมาเป็นแก้วที่สวยงาม และพวกเขาก็ได้นำแก้วไปขายตามที่สถานที่ต่างๆ ทั่วโลก และนั่นก็คือที่มาของแก้วนั่นเอง

แต่ก็มีความเชื่อว่า แก้ว เกิดก่อนหน้านั้นหลายพันปีทีเดียว ประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล แถบเมโสโปเตเมีย หรือประเทศซีเรียและอิรักในปัจจุบัน

แม้ว่าที่มาของช่วงเวลายังสรุปได้ไม่แน่นอน แต่ช่วงเวลาที่มนุษย์ผลิตแก้วและกระจกอยู่ราว 50 ปีก่อนคริสตกาล โดยชาวโรมัน

การผลิตแก้วใช้ปูนและโซดาผสมเข้ากับซิลิก้า ซึ่งมีอยู่ในเม็ดทราย ซิลิก้ามีจุดหลอมเหลวสูงมาก จะใช้ไฟธรรมดาหลอมไม่ได้ ต้องเข้าเตาหลอมพิเศษ อุณหภูมิสูงราว 1,590 องศาเซลเซียส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น