วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

ความเศร้า มาจากไหน

กำลังใจ เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับคนเรา ถ้าขาดกำลังใจเสียแล้ว คงไม่มีแรงอะไรมาผลักดัน ให้เราฟันฝ่าอุปสรรคได้ ต่อไปดีไม่ดีอาจถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย เพราะหมดกำลังใจที่จะสู้ชีวิตก็ได้ วิธีแรก ให้จดบันทึกและสะสมภาพเหตุการณ์ดีๆ ในชีวิตเอาไว้ จะเป็นเหตุการณ์อะไรก็ได้ที่เคยทำให้เรามีความ สุข สดชื่น และสมหวังในชีวิตมาแล้ว เช่น วันรับปริญญา วันที่พบคนรักครั้งแรก วันแต่งงาน วันที่ได้เลื่อนตำแหน่ง วันที่ได้เป็นเจ้าของบ้านอย่างเต็มภาคภูมิ วันที่ได้ไปท่องเที่ยวสนุกสนาน เป็นต้น แล้วว่างๆ ก็เอาบันทึกหรือภาพถ่าย มาดูจะช่วยให้ย้อนระลึกถึงความสุขในอดีต ทำให้มีกำลังใจที่จะสู้ปัญหาในปัจจุบันต่อไป




วิธีต่อมา ให้สะสมคติพจน์ คำคม สุขภาพจิต หรือคำปลุกใจต่างๆ เอาไว้ เช่น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน “ลำบากก่อนแล้วจะสบายเมื่อปลายมือ” “ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรู คือ ยาชูกำลัง” “งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข” และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ควรติดสุภาษิตเหล่านี้ไว้ ตามฝาผนัง หน้ากระจก หน้าประตู เพื่อให้ตัวเองเห็นบ่อยๆ จะได้มีกำลังใจอยู่เสมอ ท้ายสุด คือ ให้นึกถึงคนที่เรา ชื่นชมยกย่องในความมานะ อุตสาหะของเขา เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยความบากบั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ จะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น เก็บเขาคนนี้ไว้ในใจของเรา เมื่อใดที่เรารู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจที่จะสู้ต่อไป ก็ให้นึกถึงเขา คนนั้น คิดว่าเราต้องอดทน มีมานะ เหมือนเขาคนนั้น เพื่อที่เราจะได้ประสบความสำเร็จเหมือนเขาเช่นกัน เราก็จะเกิด กำลังใจ ที่จะเอาชนะปัญหาอุปสรรคให้ได้ ขอย้ำว่ากำลังใจนั้นไม่ต้องไปหาที่ไหน อยู่ที่ใจของเรานั้นเอง

วิธีปลอบใจที่ได้ผล

คงมีบางครั้งเหมือนกัน ที่เราเห็นคนใกล้ชิดมีความทุกข์แล้ว เราเองก็อยากจะปลอบใจเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้น อย่างไร และก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราจะพูดออกไปนั้น มันเหมาะสมหรือไม่ ดีไม่ดีแทนที่เขาจะรู้สึกดีขึ้น อาจจะรู้สึก แย่ลงกว่าเดิม ทำให้เราต้องรู้สึกผิดหนักขึ้นไปกว่าเดิม ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่า ตัวคุณจะปลอบใจใครได้ เรามีวิธีที่จะ แนะนำคุณดังนี้

ประการแรก ให้คุณไปอยู่ใกล้ๆ เขา ไปนั่งข้างๆ ไปให้เขาเห็นหน้าคุณ เพื่อแสดงให้เขารู้ว่า คุณห่วงใยเขาจริงๆ ในกรณีที่คุณไม่สามารถจะไปอยู่ใกล้ชิดเขาได้ ก็อาจจะใช้วิธีโทรศัพท์ไปหา เขียนจดหมาย ส่งการ์ดหรือส่งโทรเลขไปก็ได้ เพื่อแสดงว่าคุณยังนึกถึงเขาอยู่

ประการที่สอง ให้รีบฟังสิ่งที่เขาพูดระบายออกมา คุณต้องเป็นผู้ฟังมากกว่าผู้พูด ถ้าเขายังไม่มีอารมณ์จะพูด หรือกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น คุณก็ควรรอคอยอย่าง อดทน เมื่อเขาพร้อมที่จะพูด คุณก็ต้องฟังอย่างตั้งใจ ควรพูดเข้าข้างเขา แสดงตัวว่าเป็นพวกเดียวกับเขา และ พร้อมจะให้ความช่วยเหลือเขาเสมอ ที่สำคัญคุณต้องเก็บเรื่องของเขาไว้เป็นความลับ ไม่เอาไปพูดต่อและเมื่อ บอกกว่าจะช่วยก็ต้องช่วยจริงๆ อย่าไปพูดสัญญาลมๆ แล้งๆ ที่คุณทำจริงไม่ได้ เขาจะหมดความเชื่อถือในตัวคุณ

ประการที่สาม คุณต้องให้กำลังใจเขา ช่วยให้เขามองเห็นทางออก ในเรื่องที่เขากำลังกลุ้มใจอยู่คุณต้อง ช่วยให้เขามีความหวังในชีวิต อย่าเพิ่งคิดสั้น เพราะตัวเขานั้นยังมีคุณค่าต่อคุณ ต่อครอบครัวของเขาและต่อสังคมด้วย

ประการสุดท้าย ช่วยให้เขาตัดสินใจเลือกทางแก้ไขปัญหา ด้วยตัวของเขาเอง คุณอย่าไปตัดสินใจแทนเขา ต้องให้เกียรติในการติดสินใจของเขา และคุณต้องแสดงความจริงใจ ที่จะช่วยเหลือเขาต่อไปด้วย เพียงเท่านี้ เขาคนนั้นก็จะคลายทุกข์ และมีกำลังใจที่จะสู้ชีวิตต่อไปอย่างแน่นอน

เมื่อมีปัญหา

ในชีวิตของคนเรา ปัญหาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ไม่มีใครจะหนีปัญหาได้พ้น เพราะฉะนั้น ถ้าตอนนี้คุณกำลังมีปัญหาอยู่ อย่าเพิ่งวิตกกังวล หรือกลุ้มอกกลุ้มใจมากจนเกินไปเลย เรามาช่วยกันคิดแก้ปัญหาดีกว่า ตามปกติวิธีแก้ปัญหาจะมีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน คือการสู้ การหนี และการรอมชอม ซึ่งแต่ละวิธีมีรายละเอียดดังนี้

การสู้ หมายถึง การพยายามหาทางแก้ปัญหาอย่างสุดกำลัง ทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังใจ กำลัง ทรัพย์ เรียกว่าทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได ้และถ้าลองแก้ปัญหาด้วยวิธีหนึ่งแล้ว ยังไม่ได้ผลก็จะหันไป ลองใช้อีกวิธีหนึ่ง เปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ผล หรือแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้ ก็ต้องลอง ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพื่อเขาจะช่วยได้ วิธีนี้เรียกว่า สู้ยิบตาไม่ยอมแพ้จนกว่าปัญหาจะหมดไป

วิธีต่อมา คือ การหนี หมาย ถึง การหลบเลี่ยงปัญหา อาจหลบไปชั่วคราวเพื่อไปตั้งหลัก แล้วกลับมาสู้ใหม่ หรือจะเป็นการหนีเพื่อยอมแพ้ ในกรณีที่ยังรู้สึกว่าปัญหานั้น มันอยู่นอกเหนือความสามารถของเราที่จะแก้ไขได้ สู้ต่อไปก็เสียเวลาเปล่า สู้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น ที่มีประโยชน์กว่าไม่ได้

วิธีสุดท้าย คือ การรอมชอม หมายถึง ถ้าปัญหานั้นเราจะสู้ก็ไม่ไหว จะหนีก็หนีไม่พ้น เรา ควรใช้วิธีปรับตัวปรับใจ เพื่อให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ตามสมควรแก่อัตภาพ โดยไม่เครียดจน เกินไป

คุณคิดว่าจะใช้วิธีไหนแก้ปัญหาของคุณดี อยากแนะนำว่าให้คุณลองสู้ให้สุดความสามารถ ก่อน ถ้าไม่ไหวอาจถอยมาตั้งหลักสักพัก แล้วค่อยสู้ใหม่แต่ถ้าสู้ไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องปรับตัว ปรับใจให้ยอมรับปัญหานั้นให้ได้ต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้คุณแก้ปัญหาของคุณได้ในที่สุด

วิธีเอาชนะความเศร้า

คุณกำลังเศร้าโศกเสียใจอยู่หรือเปล่า ไม่ว่าคุณจะเศร้าเพราะสาเหตุใด จะเพราะสูญเสียคนรัก ของรักหรือผิดหวัง ไม่ได้สิ่งที่ปรารถนาก็แล้วแต่ ขอให้คุณระบายอารมณ์เศร้าออกมาให้มากที่สุด อยากร้องไห้ก็ร้องเสียให้พอ อยากบอกความทุกข์ในใจกับใครก็จงพูดออกมา หรือจะเขียนเป็นจดหมาย เป็นบันทึก หรือเป็นบทกลอนก็ได้ สุดแต่ว่าคุณจะถนัดอย่างไหน การระบายความเศร้าออกไป จะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้น นอกจากนี้ การจมอยู่กับความเศร้า ไม่สนใจดูแลตัวเองไม่กิน ข้าวกินปลา เอาแต่เก็บตัวอยู่ตามลำพัง ฟังแต่เพลงเศร้าๆ ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น มีแต่จะยิ่งทำให้ตัวเองทรุดโทรมลง จนอาจถึงขั้นเจ็บป่วยได้ ขอให้คุณแข็งใจลุกขึ้นทำกิจวัตรประจำวันอย่างเดิม พยายามกินอาหาร เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง พยายามฝืน ใจทำงานจะเป็นงานบ้าน งานอดิเรก หรืองานอาชีพก็ได้ งานจะช่วยหันเห ความสนใจของคุณไปเสีย จากความเศร้า และงานยัง จะช่วยให้คุณ เห็นคุณค่าของตัวเอง ที่มีต่อคนอื่นด้วยโดยเฉพาะงานกุศล หรืองานช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก จะทำให้คุณเลิกสงสารตัวเอง เลิกหมกมุ่นกับความเศร้าได้อย่างวิเศษ แต่ ถ้าคุณหรือคนใกล้ชิด มีอารมณ์เศร้าอยู่เป็นเวลานาน และมีความคิดอยากตายด้วย อย่าได้นิ่งนอนใจเป็นอันขาด ขอได้ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อขอรับการรักษาโดยด่วน ก่อนที่จะสายเกินไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น