วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทราย มาจากไหน

ทราย เป็นวัสดุหนึ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ ทั้งในการผสมคอนกรีต รวมไปถึงการทำบ้านดิน ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในผู้ใช้ประโยชน์จากทราย เราจึงควรที่จะต้องทราบที่มาของมัน กระบวนการผลิต และรับรู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเราในฐานะมนุษย์ที่ได้นำทรัพยากรธรรมชาติ ขึ้นมาใช้ด้วย


โดยปรกติแล้วทรายที่เราใช้ ได้มาจากแหล่งที่มา 2 แหล่ง คือ ทรายแม่น้ำ และทรายบก
ทราย แม่น้ำคือทรายที่เกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ ซึ่งทรายละเอียดนั้นจะถูกกระแสน้ำพัดพามารวมกันอยู่ที่ท้ายน้ำ การนำขึ้นมานั้นจะใช้เรือดูด ดูดทรายขึ้นมาตามท่อแล้วทิ้งทรายลงบนตะแกรงของเรืออีกลำเพื่อแยกกรวดที่มี ขนาดใหญ่ออกก่อน เมื่อเรือมาถึงท่าก็จะเปิดท้องเรือเพื่อทิ้งทรายลงไปในแม่น้ำอีกครั้ง (ถ้าท้องเรือไม่สามารถเปิดได้ก็จะต้องใช้สายพานลำเลียงลงแม่น้ำ) หลังจากนั้นก็จะใช้เรือดูดทรายอีกครั้งหนึ่ง โดยผ่านตะแกรงเพื่อคัดแยกทรายหยาบกับทรายละเอียด หลังจากนั้นจึงใช้สายพานลำเลียงขนทรายไปยังที่เก็บหรือกองไว้เพื่อรอขนส่ง ออกไป

ทราย บกคือ ทรายที่เกิดจากการตกตะกอนทับถมกันของลำน้ำเก่า ซึ่งเปลี่ยนเป็นดินโดยมีซากพืชซากสัตว์ทับถมเป็นหน้าดินซึ่งอาจอยู่ลึก ประมาณ 2 - 10 เมตร กระบวนการผลิตทรายบกแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ

1. ผลิตโดยใช้วิธีแบบดั้งเดิม โดยการเปิดหน้าดินด้วยรถตักดินจนถึงระดับน้ำใต้ดินจนมีสภาพเป็นแอ่งน้ำขนาด ใหญ่แล้วจึงนำเรือมาดูด หรือใช้รถตักทรายขึ้นมาผ่านตะแกรงเพื่อแยกกรวดออก

2. การใช้เครื่องจักรในการผลิตทราย โดยอาศัยการเปิดหน้าดินเหมือนวิธีแรก หลังจากนั้นจะผ่านขึ้นตอนและเครื่องจักรต่าง ๆ ได้แก่

= เรือดูดทราย ลำเลียงผ่านสายพานไปยัง Feedbox

= Feedbox อยู่ส่วนบนสุดของเครื่องจักร ทำหน้าที่คัดแยกหินและรากไม้

= ตะแกรงร่อน ทำหน้าที่คัดทรายขนาดใหญ่เกินไปทิ้งไปก่อน

= Classifying Tank รับทรายจากตะแกรงร่อนเพื่อทำหน้าที่คัดแยกขนาดและทำความสะอาดทราย โดยการใช้หลักการพัดพาของทรายที่ปนไปกับน้ำ โดยทรายขนาดใหญ่จะตกตะกอนเร็วกว่าทรายขนาดเล็ก มีทั้งหมด 11 สถานี ซึ่งแต่ละสถานีจะมีขนาดทรายที่แตกต่างกัน

= ระบบควบคุม ทำหน้าที่แยกและผสมทรายในขนาดต่าง ๆ เพื่อให้ได้คุณสมบัติทรายตามที่ต้องการ

= Screw Washer ทำหน้าที่ทำความสะอาดทรายอีกครั้งหนึ่ง และลดความชื้นของทรายละให้ได้ต่ำกว่า 20% หลังจากนั้นจึงส่งไปตามสายพานเพื่อนำไปกองไว้ใช้งานต่อไป

ความ แตกต่างระหว่างทั้งสองวิธีคือ วิธีแบบดั้งเดิมจะได้ทรายที่ไม่สะอาดนัก ไม่เหมาะจะนำไปใช้งาน แต่ก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ ส่วนของการใช้เครื่องจักรนั้นจะทำให้ได้ทรายที่สะอาด และควบคุมคุณภาพทรายได้ซึ่งนอกจากจะผลิตทรายสำหรับผสมคอนกรีตแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมผลิตกระเบื้องและกระจกได้ด้วย แต่เนื่องจากมีการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่และระบบที่ซับซ้อนจึงทำให้ทรายมี ราคาสูง

ผลกระทบจากการประกอบกิจการขุด ตัก และดูดทราย อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมด้านต่าง ๆ เช่น

1. ด้านอุทกวิทยาและคุณภาพน้ำ การขุด ตัก และดูดทราย ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำทั้งผิวดินและใต้ดิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบทั้งทางด้านปริมาณและคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำ ตลอดจนอาจส่งผลกับการใช้ประโยชน์ของชุมชนบริเวณใกล้เคียง

2. ด้านคุณภาพอากาศและเสียง การดูดทรายจำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ที่ใช้ดูดและคัดแยกขนาดทราย ทำให้เกิดเสียงรบกวน ควันดำ และการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง

3. การพังทลายของดิน การดูดทรายแม่น้ำเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตลิ่งพังทลาย ส่วนการทำทรายบกนั้นมันจะเกิดผลกระทบต่อการชะล้างพังทลายและทรุดตัวของพื้น ดินในพื้นที่ใกล้เคียง

4. ด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน และปัญหาทางด้านทัศนียภาพการประกอบกิจการทรายบกจำเป็นต้องเปิดหน้าดินออก ซึ่งเป็นการสูญเสียหน้าดินอย่างถาวร แม้กระทั่งหยุดการประกอบกิจการก็ยังก่อให้เกิดปัญหาบ่อทรายร้าง ไม่สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณนั้นได้อีก

5. ด้านคมนาคมขนส่ง การขนทรายส่งผลให้มีปริมาณการจราจรหนาแน่นขึ้น ถนนอาจชำรุดเสียหายเนื่องจากไม่สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้สูงขึ้น

6. ผลกระทบด้านสังคมต่อชุมชนรอบข้าง รวมไปถึงผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น