วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

น้ำนมแม่ มาจากไหน

น้ำนมแม่นับเป็นอาหารมหัศจรรย์สำหรับลูกน้อย ไม่มีอาหารใดสำหรับลูกวัยแรกเกิด 1 ปีแรก จะมีประโยชน์เท่ากับน้ำนมแม่ซึ่งกระบวนการผลิตน้ำนมนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง




ช่วงที่ 1 ( Lactogensis I )
เริ่มตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ประมาณ16-22 สัปดาห์ ร่างกายเริ่มผลิตหัวน้ำนมแต่ยังมีปริมาณเพียงนิดเดียวเท่านั้น( ในคุณแม่บางท่านเมื่อครรภ์แก่ อาจจะมีน้ำไหลออกบ้างก็เกิดจากสาเหตุนี้นั่นเอง )
ช่วงที่ 2 ( Lactogensis II )
ประมาณ 30-40 สัปดาห์ หลังคลอดลูกน้อยเรียบร้อยแล้วฮอร์โมนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจากการสร้างน้ำนมและกระตุ้นให้ร่างกายสร้างน้ำนมในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงนี้คุณแม่ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าน้ำนมมานานแล้ว เพราะยังไม่มีอาการคัด จนกระทั่ง 50-73 ชั่วโมง (2-3วัน ) หลังคลอด จึงค่อยรู้สึกว่ามีน้ำนมมา

ในกระบวนการผลิตน้ำนมของร่างกายทั้ง 2 ช่วงนี้ ถึงแม้ว่าลูกจะไม่ได้ดูดนม ร่างกายจะทำการผลิตน้ำนมโดยธรรมชาติ เพราะเป็นกระบวนการผลิตน้ำนมที่เกิดจากการทำงานของฮอร์โมน

ช่วงที่ 3 (Lactogensis III )
ช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญที่สุด ว่าคุณแม่จะมีน้ำนมให้ลูกกินไปคลอดหรือไม่ เพราะกระบวนการผลิตน้ำนมไม่ได้ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนล้วนๆ อีกต่อไปแล้ว น้ำนมแม่จะผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง ก็ต่อเมื่อมีการเอาน้ำนมออกจากเต้านมแม่อย่างสม่ำเสมอ ก็คือการให้ลูกดูดนมหรือการปั๊มน้ำนมออกมานั่นเอง ซึ่งมีหลักการทำงานดังนี้

ในน้ำนมแม่ ประกอบด้วยโปรตีนเวย์ขนาดเล็กที่เรียกว่า Feedback Inhibitor of Laction (FIL) เมื่อน้ำนมถูกถูกผลิตน้ำนมน้อยและช้าลง ถ้ามีการนำน้ำนมออกจากเต้า จนเต้านมว่าง FIL น้อยลงก็จะทำให้กลไกการผลิตน้ำนมทำงานเร็วขึ้น และมากขึ้น

ฮอร์โมนอีกตัวที่สำคัญในกระบวนการผลิตน้ำนม คือฮอร์โมนโปรแล็คติน ที่ผนังเซลล์ผลิตน้ำนมจะมีตัวรับฮอร์โมนโปรแล็คติน ซึ่งจะส่งผ่านโปรแล็คตินเข้าสู่กระแสเลือดไปยังเซลล์ผลิตน้ำนม และทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างน้ำนมและถ้าในต่อมน้ำนมมีน้ำนมอยู่เต็ม ผนังเซลล์ผลิตน้ำนมนี้จะขยายทำให้ตัวรับฮอร์โมนโปรแล็คตินเข้ามาไม่ได้ จึงทำให้การผลิตน้ำนมลดลง ถ้ามีการนำน้ำนมออกไป ตัวรับฮอร์โมนโปรแล็คตินจะกลับเข้าสู่สภาพเดิม ทำการส่งผ่านฮอร์โมนโปรแล็คตินต่อ กระบวนการผลิตน้ำนมก็กลับมาทำงานอีกครั้ง
ด้วยกระบวนการทำงานที่กล่าวมา ทำให้เรารู้ว่า ถ้าน้ำนมออกจากกายมากและบ่อย ในช่วงสัปดาห์แรกๆ หลังคลอด จะทำให้ปริมาณตัวรับฮอร์โมนโปรแล็คตินเพิ่มขึ้นเป็นผลให้ปริมาณโปรแล็คตินผ่านเข้าสู่ได้มากขึ้นนั่นเอง
จากขั้นตอนการผลิตน้ำนมที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า การผลิตน้ำนมจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ต่อเมื่อมีการนำน้ำนมออกมาจากเต้านมอย่างสม่ำเสมอ และเต้านมจะหยุดการผลิตน้ำนาภายในไม่กี่วัน ถ้าไม่มีการนำน้ำนาออกจากเต้าอย่างสม่ำเสมอ ดังที่เราจะได้ยินเสมอว่า จะต้องให้ลูกดูดกระตุ้นนมแม่ให้บ่อยที่สุด และดูดให้ถูกวิธี หรือต้องหมั่นปั๊มออก ( ด้วยเครื่องปั๊มมีคุณภาพ ) ตั้งแต่ในช่วงแรกคลอด ไม่เช่นนั้นลูกน้อยของคุณก็จะไม่ได้รับอาหารมหัศจรรย์จากเต้านมคุณเลย
ปัญหาหลังคลอด

หลังคลอดใหม่ๆ คุณแม่ยังคงอ่อนเพลียตากการคลอดและอาการเจ็บแผล เมื่อลูกดูดนม ทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บเต้ามากๆ ได้ ถึงแม้จะใช้เครื่องปั๊มก็รู้สึกเจ็บเช่นกัน ซึ่งอาการนี้จะอยู่กับคุณแม่เพียงแป๊ปเดียว เรียกว่าเป็นอีกบททดสอบของการเป็นแม่ก็ว่าได้เมื่อร่างกาย ปรับตัวได้ก็จะไม่เจ็บอีกต่อไป

คุณแม่บางท่านคิดว่าน้ำนมไม่ออก น้ำนมน้อย ลูกคงไม่อิ่ม จึงชงนมผสมให้ลูกกิน คิดว่ารอให้เต้านมคัดก่อนแต่พอลูกได้รับนมผสม อาจไม่กลับมาดูดหัวนมแม่อีก จึงทำให้น้ำนมแม่หายไปจริงๆ

ปัญหาการให้นมแม่นั้น ส่วนใหญ่เกิดจากความไม่เข้าใจของการให้นมแม่ บวกกับความท้อใจหลังคลอด ดังนั้น ถ้าคุณแม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ การให้นมแม่ก็ไม่ใช่ปัญหาของคุณอีกต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น