วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ความเหงา มาจากไหน

แต่ละคืนวันที่ผันผ่าน มีเรื่องราวหลากหลายให้ค้นหา ...วานนี้ พรุ่งนี้ มินำพา ...เพียงรู้ว่า ทำวันนี้ให้ดีก็เพียงพอ ...มีความสุขกับทุกจังหวะของชีวิต



...ความเหงามาจากไหนกัน...

...หลายครั้งที่ความเหงาเข้ามาสู่ชีวิตแล้วชักนำให้ชีวิตดูวุ่นวาย อยากหาเพื่อนสักคนมาปลอบให้หายเหงา เคยสงสัยเหมือนกันว่า..ความเหงามาจากไหน และเคยสังเกตเหมือนกันว่าหลายคู่ที่คบกันด้วยความเหงา มักจบลงด้วยการแยกย้ายเมื่อต่างฝ่ายต่างหายเหงา
...อาทิตย์สองอาทิตย์ก่อนนั่งอ่านหนังสือแปลของAndrew Matthews เรื่อง Making Friends ที่เนื้อเรื่องพูดถึงการสร้างสัมพันธ์..ผมเชื่อว่าหลายคนอาจได้อ่านผ่านตาไปบ้างแล้ว แต่ในบทที่พูดถึงความเหงาและการรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า อธิบายได้อย่างเห็นที่มาที่ไป.แอนดรูว์เปิดประเด็นว่า ความเหงานั้นเกิดจากการที่เรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า จึงต้องทดแทนความรู้สึกนั้นด้วยการหาใครสักคนเข้ามาทดแทนมาปลอบ มาทำให้ตัวเขาเองรู้สึกมีค่ามากขึ้น แต่ถ้าคนที่เข้ามานั้นกลับไม่สามารถทำให่เรารู้สึกว่าตัวเองมีค่ามากขึ้น เราก็เกิดความรู้สึกผิดหวังและยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่ามากกว่าเดิม

...แอนดรูว์เขียนไว้ว่า...คนเรานั้นเติบโตมาท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมให้เราไม่มั่นใจในตัวเองและรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่มีค่า.เริ่มจากวัยเด็ก พ่อแม่และครอบครัวก็ปลูกฝังความรู้สึกนั้นอย่างไม่รู้ตัว...เคยจำได้ไหมว่า พ่อแม่กล่าวแบบนี้กับเรา...ทอม..ทำไมลูกถึงซุ่มซ่ามขนาดนี้ ซุ่มซ่ามจนเป็นนิสัย(ทั้งๆที่เดือนนี้จานตกแตกแค่ครั้งเดียว).....หรือ..ทอม ทำไมลูกถึงเป็นเด็กใจร้ายขนาดนี้(เพียงแค่สงสัยว่าหนวดแมวมันใช้ทำอะไร ก็เลยใช้กรรไกรตัดหนวดแมว และทำเพียงครั้งแรกในชีวิต)...หรือ..ทอม ทำไมลูกถึงเรียนไม่เก่งเท่าพี่ลิซ่าของลูกล่ะ(ลิซ่าอายุ 10 ขวบถูกเอามาเปรียบกับทอมเด็กอายุ 6 ขวบ..ช่างเป็นการเปรียบเทียบที่ยุติธรรมมากจริงๆ).เมื่อคุณเข้าโรงเรียน คุณก็ถูกครูจับตาคาดโทษดุด่ายามที่คุณทำผิดแม้คุณจะไม่ได้ตั้งใจเลยก็ตาม มากกกว่าการถูกชมในขณะทำความดี คุณจึงรู้สึกว่าคุณทำแต่สิ่งที่ผิด ทำแต่สิ่งที่ทำให้ครูไม่พอใจทุกที....ทอม...ครูจะหมดความอดทนกับพฤติกรรมของเธอแล้ว เธอช่างเป็นเด็กเกเรดื้อเท่าที่ครูเคยพบมา(ทั้งๆที่ตอนทอมช่วยเพื่อน ให้ดินสอยืมทำการบ้าน ครูก็ไม่เคยเห็นและชม)...ลองมาดูสิ่งแวดล้อมรอบตัว คุณลองเปิดดูทีวี คุณก็จะเห็นว่า มีแต่คนบอกว่า คุณยังไม่ดีพอ ยังไม่เท่ห์พอ ถ้าคุณยังไม่ได้สวมเสื้อหรูราคาแพง,ขับรถเฟอร์รารี่,สวมนาฬิกาโรเล็กซ์ หรืออื่นๆ...คุณต้องสรรหาสิ่งต่างๆตามที่คนอื่นคอยเป่าหัวคุณว่า..มันคือสิ่งที่ทำให้คุณดีพอมีค่าพอ.ดังนั้น คุณจึงไม่เคยดีพอสักครั้ง ไม่มีคุณค่า คุณจึงต้องหาคนที่มาทำให้คุณรู้สึกว่าคุณดีพอ มีค่าพอ

...วิธีเดียวที่ทำได้ คือ การรู้จักยอมรับและตระหนักในคุณค่าของตัวเอง.คุณลองเขียนรายการสิ่งที่คุณรักในตัวเองสัก 5 รายการ และสิ่งที่คุณภูมิใจในตัวเองสัก 5 รายการ แล้วลองมานั่งอ่านนั่งพิจารณาดู คุณยังมีดีตั้ง 5 อย่างนี่ครับ.ผมอยากให้แต่ละคนได้รู้จักชื่นชมกับสิ่งดีๆที่เราได้ทำในแต่ละวัน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดูเล็กน้อยเพียงแค่ไหน แต่คุณคงไม่ปฏิเสธว่า...นั่นคือสิ่งดีๆที่คุณได้ทำ..ไม่ใช่หรือครับ.

...จงรักตัวเอง แต่อย่าเห็นแก่ตัวแล้วกันครับ
...ลองดูครับ จะได้หายเหงาเสียทีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น